Application of phage display antibody technology for the treatment of Acute Myeloid Leukemia (AML)
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการแสดงแอนติบอดีบนผิวเฟจในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวไมอีลอยด์ ชนิดเฉียบพลัน (เอ เอ็ม แอล)
Application of phage display antibody technology for the treatment of Acute Myeloid Leukemia (AML)
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการแสดงแอนติบอดีบนผิวเฟจในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวไมอีลอยด์ ชนิดเฉียบพลัน (เอ เอ็ม แอล)
2012-2015
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดตามลักษณะของเซลล์เม็ดเลือด ได้แก่ ชนิดไมอิลอยด์ (AML) และชนิดลิมฟอยด์ (ALL) (Udomsakdi-Auewarakul et al., 2003; Udomsakdi-Auewarakul et al., 2004) มะเร็งชนิดนี้เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในไขกระดูก ทำให้มีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของเซลล์ตัวอ่อนของเม็ดโลหิตขาวขึ้นอย่างมาก แต่เซลล์เหล่านั้นไม่สามารถเจริญเป็นตัวเต็มวัยได้ตามปกติ เซลล์ตัวอ่อนของเม็ดโลหิตขาวในไขกระดูกเหล่านี้จึงมีลักษณะเป็นเซลล์มะเร็ง ที่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วไปแทนที่และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ซึ่งสร้างเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกร็ดเลือด จนผู้ป่วยเกิดอาการแสดงในระยะเวลาอันสั้น เช่น มีอาการซีด อ่อนเพลีย มีเลือดออกผิดปกติ หรือจุดเลือดออกเนื่องจากเกร็ดเลือดต่ำ ติดเชื้อง่าย มีไข้สูง นอกจากนี้ยังอาจเกิดอาการผิดปกติจากการที่เซลล์มะเร็งแทรกตัวเข้าไปในเนื้อเยื่ออื่นๆ อีกด้วย เช่น ต่อมน้ำเหลือง ตับ ม้าม ผิวหนัง หรือเยื่อหุ้มสมอง เป็นต้น (American Cancer Society, 2009) ถึงแม้จะมีการค้นพบปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์แล้วหลายอย่างก็ตามแต่สาเหตุที่แท้จริงของโรคนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด การรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ในระยะแรกนั้นใช้การรักษาด้วยเคมีบำบัดโดยมุ่งเหนี่ยวนำให้โรคสงบ (remission) โดยผู้ป่วยอาจต้องได้รับเคมีบำบัดเพิ่มเติมหรือต้องได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโลหิตในไขกระดูกเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก (recurrence) แต่ถึงแม้จะทำการรักษาด้วยวิธีการอย่างแรง (aggressive) คือใช้เคมีบำบัดอย่างแรง (high dose) ร่วมกับการปลูกถ่ายไขกระดูกแล้วก็ตาม โอกาสกลับมาเป็นซ้ำ (relapse) ก็ยังมีอยู่ค่อนข้างสูง อัตราการรอด 5 ปี มีประมาณร้อยละ 30-40 และน้อยกว่าร้อยละ 10 ในกรณีที่กลับมาเป็นซ้ำ หรือใน ผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 65 ปี ทั้งนี้มีหลักฐานแสดงว่าอาจเป็นเพราะในตัวผู้ป่วยยังมีเซลล์มะเร็งต้นกำเนิด (leukemic stem cell) หลงเหลืออยู่ เป็นเหตุให้กลับมาเป็นซ้ำได้ (Stein et al., 2010).
จากเหตุผลข้างต้น จึงได้มีความพยายามในการศึกษาค้นคว้าหายาตัวใหม่ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่มีผลกับเซลล์ปกติอื่น ซึ่งยาตัวใหม่นี้ คือสารประเภทแอนติบอดี ที่มีความสามารถในการจับกับโมเลกุลบนผิวเซลล์มะเร็งได้อย่างจำเพาะเจาะจง แอนติบอดีชนิดแรกที่นำมาใช้ เป็นโมโนโคลนอล แอนติบอดีเตรียมได้จากหนู แล้วถูกปรับเปลี่ยนให้มีคุณสมบัติคล้ายแอนติบอดีของคนเพื่อลดปฏิกริยาการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน ด้วยเทคนิค Humanization แอนติบอดีตัวแรกที่ถูกนำมาใช้เป็นยาในการรักษาโรคมะเร็งชนิดนี้ มีชื่อทางการค้าว่า Mylotarg และชื่อทั่วไปว่า Gemtuzumab-Ozogamicin (GO) มีลักษณะเป็น humanized monoclonal antibody เชื่อมอยู่กับสารที่มีฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็ง คือ ozogamicin มีข้อบ่งใช้ในการรักษาคนไข้ AML ที่เกิดจากการกลับมาเป็นซ้ำ หรือในคนไข้สูงอายุ (Sievers, 2001) อย่างไรก็ตามยาตัวนี้ถูกถอนออกจากตลาดแล้วเนื่องจากมีอาการข้างเคียงอย่างรุนแรง และมีอัตราการรอดชีวิตไม่แตกต่างจาก placebo อย่างมีนัยสำคัญ
ข้อจำกัดที่สำคัญในการใช้แอนติบอดีสำหรับการรักษาโรคมะเร็งนั้น คือหากแอนติบอดีมีต้นกำเนิดมาจากหนูซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตคนละ species กับมนุษย์ จะทำให้เกิดปฏิกริยาตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่อาจรุนแรงจนเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงมีความพยายามที่จะคิดค้นคว้าวิจัยการผลิตแอนติบอดีจากมนุษย์เพื่อนำมาใช้ในการรักษาโรคได้อย่างปลอดภัย ซึ่งวิธีการหนึ่งที่มีศักยภาพในการผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดีจากมนุษย์คือการใช้เทคโนโลยีเฟจ (Phage Display Technology) (Thie et al., 2008) ซึ่งเป็นแนวทางของการวิจัยในโครงการนี้
เอกสารอ้างอิง
•Udomsakdi-Auewarakul, C., Promsuwicha, O., U-Pratya, Y., Pattanapanyasat, K., and Issaragrisil, S. (2003). Immunophenotypic profile of adult acute myeloid leukemia (AML): analysis of 267 cases in Thailand. Asian Pacific Journal of Allergy and Immunology. 21: 153-160
•Udomsakdi-Auewarakul, C., Tocharoentanapol, C., Wanachiwanawin, W., and Issaragrisil, S. (2004). Monosomy 7 in patients with aplastic anemia and paroxysmal nocturnal hemoglobinuria with evolution into acute myeloid leukemia. Journal of the Meducal Associateion of Thailand. 87: 717-721
•American Cancer Society (2009), Medical Reviews [On-line].
•Stein, C., Kellner, C., Kügler, M., Reiff, N., Mentz, K., Schwenkert, M., Stockmeyer, B., Mackensen, A., and Fey, G. H. (2010). Novel conjugates of single-chain Fv antibody fragments specific for stem cell antigen CD123 mediate potent death of acute myeloid leukaemia cells. British Journal of Haematology. 148: 879-889
•Sievers, E. L. (2001). Efficacy and safety of germtuzumab ozogomicin in patients with CD33-positive acute myeloid leukemia in first relapse. Expert Opinion on Biological Therapy. 1: 893-901
•Thie, H., Meyer, T., Schirrmann, T., Hust, M., and Dubel, S. (2008). Phage Display Derived Therapautic Antibodies. Current Pharmaceutical Biotechnology. 9: 439-445
Useful Links
AML
Phage Display
Therapeutic Antibody
Related Publications
หลักการและเหตุผล
Stats
Source NRCT
location SUT, Thailand
budget 940,000 THB
duration Nov, 2012 -